เห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ ช่วยฟื้นฟูอาการป่วยได้มากมายหลายโรค ซึ่งในวงการแพทย์นิยมนำมาสกัดเป็นยาจำนวนมาก นอกจากนี้หลายคนยังนิยมนำมาทาน เพื่อบำรุงสุขภาพ ในเชิงเภสัชวิทยาเห็ดหลินจือสามารถออกฤทธิ์ต่อร่างกาย 5 ระบบดังนี้
1.ระบบภูมิต้านทาน เพราะในเห็ดหลินจือมีสาร ไพลิแซ็คคาไรด์ ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยยืดระยะเวลาการเสื่อมของเซลล์ร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เม็ดเลือดขาวสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นช่วยให้กำจัดไวรัส แบคทีเรีย เขื้อรา และสารก่อมะเร็งได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ร่างกายสามารถจัดการกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นภูมิแพ้
2.ระบบหลอดเลือด เห็ดหลินจือสามารถช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวขึ้น ทำให้ลดการทำลายสารอนุมูลอิสระส่งผลทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยลดการเกาะตัวของไขมันในหลอดเลือด ส่งผลให้ช่วยชะลอความแก่และยังช่วยชะลอการเสื่อมเสียของอวัยวะส่วนต่างๆในร่างกายได้ด้วย และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ที่สำคัญช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี
3.ระบบประสาท เห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่ช่วยเข้าไปปรับสมดุลในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยลดภาวะการเกิดความเครียด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้ไปเลี้ยงสมองมากถึง 1.5 เท่า
4.ระบบต่อมไร้ท่อ เห็ดหลินจือมีสารสำคัญที่ช่วยสร้างความสมดุลให้กับต่อมไร้ท่อต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากท่อต่างๆแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ ตับอ่อน เพราะตับอ่อนเป็นส่วนที่ช่วยหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ผู้ป่วยเบาหวานหากทานเห็ดหลินจือจะช่วยทำให้สภาวะร่างกายดีขึ้น และยังช่วยลดอัตราภาวะน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆด้วย เห็ดหลินจือจะช่วยเร่งการเติบโตได้เป็นอย่างดีในเด็ก แต่สำหรับผู้ใหญ่จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมามีสภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์
5.ระบบเผาผลาญอาหาร เมื่อไหร่ที่ร่างกายขาดความสมดุลระบบการทำงานต่างๆของร่างกายก็จะเกิดความผิดปกติ ยิ่งคนที่มีอายุมากก็จะยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญอาหารเกิดความผิดปกติได้ง่าย การทานเห็ดหลินจือจะช่วยทำให้ระบบเผาผลาญสามารถทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานได้ดีขึ้นแล้ว เห็ดหลินจือยังช่วยให้ระบบอื่นๆในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นด้วย
เห็ดหลินจือจึงได้ชื่อว่า สุดยอดสมุนไพร ที่สามารถรักษาได้แทบทุกโรคจริงๆ และที่สำคัญเห็ดหลินจือยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงกับร่างกายอีกด้วย แต่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาโรคนั้นๆ